วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ครึ่งวันกับการเดินเที่ยว ไหว้พระ 4 วัด ตัวเมืองน่าน กับอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ Nan

Trip น่านดูเหมือนว่าเราใช้เวลาค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียว แต่ละวันแทบไม่มีเวลาพักเลย(น่านที่เที่ยวเยอะจริงๆ)  เช้าวันนี้เราวางแผนจะเดินเที่ยววัดดังสี่วัด ได้แก่ วัดมิ่งเมือง วัดศรีพันต้น วัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร แล้วจบที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ระยะทางในการเดินเที่ยวประมาณ 2-3 กม.  ไม่ได้เยอะเลย กำลังสบายๆ แต่ถ้าหน้าร้อนสงสัยไม่ไหวเหมือนกัน (Trip นี้เราไปในช่วงขึ้นปีใหม่ 2558 อากาศไม่หนาวเท่าไหร่แค่เย็นๆ ช่วงเช้ากลาววันร้อนเลย)
ถ้าเป็นไปได้การเดินเที่ยวแบบนี้ควรเริ่มตั้งแต่เช้าๆ แดดยังไม่แรงนัก จบสี่วัด ถ่ายรูปบ้างอะไรบ้างก็ประมาณเที่ยงๆ หาข้าวกลางวันกินพอดี สบายๆ เราเริ่มโดยจากเอารถไปจอดแถว ๆ พิพิธภัณฑ์ฯ แล้วเดินไปวัดมิ่งเมือง ก่อนเลยเป็นอันดับแรก


ถ่ายจากหน้าวัด เข้าไปด้านใน
 นี่คือแผนที่การเดินทางของเราในวันนี้ ไม่ไกลมากเดินในละแวกนี้เท่านั้นเลยครับ 
 ศาลหลักเมืองข้างในมีเสาหลักเมือง (แต่ไม่ได้ถ่ายเน้นๆมา คนเยอะมาก)
 ตัวโบสถ์สวยงามทีเดียวเด่นด้วยสีขาวตัดหลังคาสีน้ำตาลแดง
 ด้านในโบสถ์ก็งดงามไม่น้อยครับ
 ออกจากวัดมิ่งเมืองมาก็เลี้ยวซ้ายเดินมาเรื่อยๆ ยังไม่ทันเหนื่อยเราจะเห็นวัดสีทองโดดเด่นอยู่กลางแยก นี่คือวัดศรีพันต้น (สายไฟไม่เกี่ยวนะครับ)
 ไม่รอช้ารีบข้ามแยกไปทันใด สายไฟหายไปแล้ว ถ่ายหน้าตรงเลยคราวนี้
 เข้าไปใกล้ ๆ เพื่อเก็บรายละเอียด งานหน้าโบสถ์นี่งดงามมากๆ ครับ รายละเอียดชัดเจนเป็นงานฝีมือจริงๆ
 ภายในโบสถ์วัดศรีพันต้น  จากน้ันเราก็เดินย้อนกลับมาทางวัดมิ่งเมืองเพื่อไปวัดภูมินทร์
 ผ่านไปสองวัด ขนาดหน้าหนาว ยังร้อนเลยครับ หิวน้ำด้วยเลยแวะร้านนี้ซะเหน่อยเห็นน่ารักดี
 พี่คนขายก็ใจดี คุยไปคุยมาให้หนังสือน่านมาสองเล่มเลยครับ
 อิ่มน้ำเสร็จพร้อมขนมปังทาเนย เดินต่อไปวัดภูมินทร์
 วัดภูมินทร์ ตัวโบสถ์จะอยู่บนพญานาคา อยู่ตรงกลางพญานาคเลย ทางเข้าด้านนึงอยู่ด้านหัวอีกด้านนึงอยู่ด้านหางนาค
 พระประธานในโบสถ์มีสี่หน้าเลยครับ 
 ภาพในตำนาน ภาพดังประจำจังหวัดน่านจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้วครับ ภาพปู่ม่านย่าม่าน "กระซิบรัก"
 แดดแรงมาก ช่างภาพของเราจัดเต็มไม่อายใคร (โบสถ์ด้านนี้เป็นด้านหางนาค) จบจากที่นี่เราก็จะเดินข้ามแยกไปอีกนิดก็ถึงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารแล้วครับ
 สังเกตถนนครับเป็นสีแดง (รู้สึกว่าจะเป็นเขตเมืองเก่าอะไรประมาณนี้ครับเลยใช้สีถนนไม่เหมือนที่อื่น) ที่เห็นข้างหน้านั่นคือจุดหมายที่เราจะเดินทางไป วัดพระธาตุช้างค้ำ
ตัวพระธาตุครับ ที่เห็นพระกำลังชักรอกตุงขึ้นสู่พระธาตุเป็นการทำบุญเสริมดวงชะตาครับ
มุมนี้เก็บหมด  
 ในโบสถ์โอ่อ่า อลังการ เสาแต่ละต้นใหญ่มากที่สำคัญเย็นด้วย ร้อนๆ มาหายร้อนเลย 
 ออกจากวัดพระธาตุช้างค้ำเราก็เดินข้ามถนนมาพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ระหว่างทางเจอกับวัดอีกวัดหนึ่ง ขอย้ำครับ ที่เห็นในภาพคล้ายศาลคือวัด ชือว่าวัดน้อย   ทำไมเล็กขนาดนี้  นี่คือเรื่องราวของวัดนี้ครับ "เรื่องเล่าถึงสาเหตุในการสร้างว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลถึงจำนวนวัดทั้งหมดในเมืองน่าน ต่อหน้า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ในครั้งนั้นพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯได้นับจำนวนวัดเกินไปหนึ่งวัด ทำให้การกราบบังคมทูลคราวนั้นผิดพลาด หลังจากนั้น พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ จึงได้หาทางทำการสร้างวัดน้อยแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้ครบตามจำนวนที่กราบบังคมทูลไปซึ่งการเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5"
 ถึงแล้วพิพิธภัณฑ์ ด้านในมีของโบราณเยอะเลย (ไม่ได้ถ่ายภาพมาครับ)

 ที่พิพิธภัณฑ์ จะมีจุดที่น่าสนใจคือซุ้มต้นลีลาวดีเป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 100 เมตร แปลกตาสวยงามครับ

 ที่เห็นเป็นต้นมีแต่กิ่งนั่นคืออุโมงค์ลีลาวดีตอนผลัดใบหมดต้นครับ
 ภาพนี้มุมกว้างขึ้นไปบนพิพิธภัณฑ์น่าน ถ่ายออกมา  จากนั้นเราก็จบ trip เที่ยววัดที่ตั้งใจแล้วครับ ต่อไปคือต้องหาอะไรกินกลางวันล่ะ แต่ระหว่างทางที่ขับรถเจอวัดหนึ่งโดดเด่นอดไม่ได้ลงไปเก็บภาพ
 วัดนี้ชื่อวัดสวนตาล โบสถ์ใหญ่ตระหง่านเห็นไกลๆเลยครับ
ด้านในมีพระธาตุ ดูขลังมากทีเดียว
 ในโบสถ์ก็ร่มรื่น  พระประธานงดงาม
จากการเดินเที่ยววัดในเขตตัวเมือง พบว่านี่คือศิลปที่งดงามแนะนำท่านๆที่จะมาเที่ยวน่านสำรองเวลาสำหรับเที่ยววัดด้วยครับ เพราะว่าศิลปทั้งนอกและในโบสถ์ถือว่างดงามอลังการตามแบบฉบับของน่านน่านเลยครับ  


 จบไว้ที่ภาพนี้นะครับ ถนนที่ไม่เหมือนใคร กับมุมของวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

2 ความคิดเห็น: