หลังจากที่เราได้ขับรถเลาะชายทะเลจันทบุรี เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิศ จนมาถึงจังหวัดตราด ก็เย็นพอดีได้แวะพักนอนที่ Toscana Hotle จังหวัดตราดหนึ่งคืน วันต่อมาเราจึงได้เดินทางข้ามไปเกาะช้าง ออกจากโรงแรมแต่เช้าเลยค่ะ จะได้มีเวลาแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่น่าสนใจบนเกาะช้างได้ ข้อดีของการออกแต่เช้า (ประมาณ 7.30 ) คือ คนไม่เยอะ ขึ้นเรือไม่ต้องรอนานมากทั้งที่เป็นช่วงสงกรานต์ เรามุ่งหน้าไปที่ท่าเรือเฟอรี่เกาะช้าง โชคดีไปถึงได้เอารถขึ้นเรือทันทีเลย ไม่ต้องรอคิว ที่สำคัญบนเรือมีรถน้อยมาก ขึ้นไปบนชั้นสองของเรือไม่มีคนซักคนเลย (ดีจริงๆ) ที่เกาะช้างฝั่งตะวันตกมีจุดชมวิวที่รถเข้าถึงมีเดินขึ้นบันไดนิดหน่อยเพื่อขึ้นที่สูงหลายจุดด้วยกัน ตามมาชมกันเลยนะคะ
เรือกำลังมุ่งหน้าไปเกาะช้าง (แต่ภาพนี้รู้สึกจะเป็นแผ่นดินใหญ่นะคั ถ่ายย้อนกลับไป)
นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับน้ำสีเขียวและฟ้าสีคราม
เพลินกับวิวทะเลภูเขาฟ้าสีคราม ของทะเลตราดได้ไม่นานนัก เรือก็ถึงท่าเรือเฟอรี่บนเกาะช้าง เราขับรถออกจากท่าเรือเลี้ยวขวา ไปไม่ถึงกิโลเมตร พบกับศาลเจ้าพ่อเกาะช้างอยู่ทางด้านขวามือของรถที่เราขับไป (ทิศทางที่เราไป ด้านขวามือจะติดทะเล ด้านซ้ายมือเป็นภูเขา) เอารถเข้าจอดบริเวณที่จอดรถทันทีค่ะ เดินขึ้นบันไดไปประมาณ 100 ขั้น ไม่ชันมาก เพื่อไหว้เจ้าพ่อเกาะช้างกันสักหน่อย
เดินขึ้นบันได้ไปเรื่อย ๆไม่ไกลค่ะ ศาลเจ้าใช้สีแดงเป็นสีหลัก
ภาพมุมกว้างบริเวณศาลเจ้าพ่อเกาะช้างด้านบนค่ะ
ที่บนศาลเจ้านี้ เป็นจุดแรกที่เราได้มองเห็นทะเลมุมสูง แต่ว่าจะถูกบังด้วยต้นไม้เป็นส่วนใหญ่ เอาละแต่ก็เป็นจุดแรก เลยสร้างความตื่นเต้นได้บ้างนะคะ
ถ่ายรูปเสร็จเราก็ลงค่ะ แล้วเดินทางต่อไป จุดต่อไป ไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ 3-5 กม. จะเจอกับจุดชมวิวหาดทรายขาว น่าสนใจมากค่ะ จุดนี้ต้องแวะเลย มองลงไปเห็นหาดทรายขาวยาวเป็นกิโล เลยค่ะ แต่ว่าต้องจอดรถริมถนน (เค้าทำที่เว้าเข้าไปไว้ให้จอดค่ะ น่าจะจอดได้ประมาณ 5-8 คัน)
ภาพนี้ถ่ายจากจุดชมวิวหาดทรายขาว ทะเลค่ะ ทะเลล้วน ๆ เลย
มุมสูงเห็นหาดทรายขาวทั้งหาดเลยนะคะ น่าสนใจมาก ๆ ต้องแวะล่ะค่ะ
ลองซูมเข้ามาดูใกล้ ๆกันหน่อยค่ั จะเห็นถนนที่เราจะไปจริง ๆเลาะทะเลไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ
ถ่ายรูปพอประมาณ ก็ออกเดินทางต่อ ไปเรื่อย ๆ คราวนี้ก็จะผ่านหาดทรายขาวไป สักระยะจะเจอกับ จุดชมวิวที่ต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 200-300 ขั้น เหนื่อยทีเดียวค่ะ ที่นี่คือพระตำหนัก พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
ด้านบนเป็นจุดชมวิว ที่จอดรถเยอะมากค่ะที่นี่
หลังจากเดินเหนื่อยขึ้นมาถึงด้านบน (ขึ้นบันไดมาเหนือยพอควรค่ะ)
ทะเลจากจุดชมวิวบนพระตำหนัก (ถ้าไม่ขึ้นมาก็ไม่เห็นแบบนี่ใช่ไหมคะ) โชคไม่ดีภาพย้อนแสงนิดๆ
ถ่ายรูปเพื่อให้หายเหนื่อยแล้วค่อยลง ใส่ฟิลเตอร์ซะเลย สร้างบรรยากาศตอนเย็น เพราะตอนเย็นเราคงไม่ได้มาที่นี่แล้ว เนื่องจากไกลจากที่พักมากค่ะ
ไปต่อจุดต่อไป จุดนี้ต้องแวะค่ะ เพราะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในบรรดาที่รีวิวครั้งนี้ ที่จอดรถเยอะ สะดวกด้วย ไม่ต้องเดินขึ้นเขา เพราะอยู่บนเข้าแล้ว จุดนี้คือ จุดชมวิวไก่แบ้ สัญลักษณ์คือตู้ไปรษณีย์สีแดงค่ะ
มีเกาะเล็ก ๆ อยู่เต็มหลายเกาะด้วยกัน
ซูมมาดูใกล้ๆ มีคนพายเรือด้วย
ตู้ไปรษณีย์สีแดงทรงจรวด สัญลักษณ์ของจุดชมวิวไก่แบ้
ไปต่อค่ะ จุดต่อไป เป็นชายหาดกันบ้าง รู้สึกจะเป็นอ่าวใบลาน ต้องเข้าไปทางรีสอร์ทอะไรก็ไม่รู้ค่ะ ที่เกาะช้างนี่ ถ้าจะเข้าชายหาด ต้องผ่านรีสอร์ทหรือโรงแรมถึงจะไปชายหาดได้ เราก็เสียบๆ รถเข้าไปแล้วเดินไปชายหาดเลยค่ะ
อ่าวใบลาน มีหาดที่น่าสนใจคือ มีส่วนหนึ่งเป็นหินแบบนี้เต็มไปหมดเลย แต่น้ำใส
แต่อีกส่วนหนึ่ง เป็นหาดทราย มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย ส่วนนี้เล่นน้ำได้
ออกจากอ่าวใบลาน เราก็ไปต่อค่ะ เข้าไปในซอยแถวอ่าวบางเบ้า เพื่อจะถ่ายภาพสะพานท่าเรือและประภาคารบางเบ้า (ตรงไหนเข้าได้เราก็เข้าเลยค่ะ)
ที่เห็นเป็นสะพานท่าเรือบางเบ้า จุดนี้เป็นอ่าวบางเบ้า ด้านหลังเป็นเขาสวยมาก(แต่ภาพออกมาไม่สวยเท่าที่เห็นนะคะ)
ไปเรื่อย ๆ จำไม่ได้เหมือนกันนะคะว่าเข้าทางไหน ไปตามทาง เจอร้านอาหารบรรยากาศดีทีเดียว หิวพอดีเลย
หมดจากจุดนี้เราก็รีบเดินทางต่อไปเพื่อเข้าที่พักที่สงบที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาคือทั้งโรงแรม มีเราพักเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้าพักเพียงห้องเดียว ตึกที่เห็นทั้งหมดแหละค่ะ เราพักเพียงห้องเดียว Tranquility Bay Resort and Residences
จบไว้ที่ภาพนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น