วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

เส้นทางลอยฟ้า น่าน สันติสุข บ่อเกลือ ดอยภูคา ปัว ความงามเหนือหุบเขา Nan

    
จังหวัดน่าน คงเป็นจังหวัดหนึ่งที่ใครไปก็ต้องชอบ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นดอย วัดงามๆ พระธาตุสวยๆ แม่น้ำ  ระหว่างทางวิวก็สวยงามมากมายครับ เส้นทางที่เราประทับใจมากก็คือ เส้นทางลอยฟ้า จากตัวเมืองน่าน ผ่านอำเภอสันติสุข ไปบ่อเกลือ ต่อไปถึง จุดชมวิวดอยภูคา และทะลุไปอำเภอปัว เส้นทางนี้แนะนำครับ สวยงามมาก จะวิ่งย้อนก็ได้(ไม่ว่ากัน)  ถ้าไปน่านเพิ่มอีกหนึ่งวันขับรถเล่นเส้นนี้ ช่วงเทศกาลถ้าจะให้ดีสำหรับคนชอบถ่ายภาพแนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซด์น่าจะสะดวกมากกว่าขับรถ วิวสวยตลอดทาง
หาที่จอดเพื่อถ่ายภาพง่าย แต่ถ้ารถเก๋งหรือปิคอัพ ก็ต้องเล็งหาที่จอดกันดีๆ ไม่งั้นอันตรายต่อเพื่อนร่วมทางและตัวเองครับ บางทีวิวสวยมากๆ แต่จอดไม่ได้เพราะอันตรายเกินไป ก็ได้แต่เก็บความงามไว้ในใจ   เอาล่ะเราไปดูกันครับว่าเส้นทางนี้เป็นอย่างไร(นี่เฉพาะที่เราสามารถจอดถ่ายภาพได้อย่างปลอดภัยเท่านั้นนะครับ)

   เส้นทางหลักที่จะใช้คือ 1169  ต่อ 1081 ต่อด้วย 1256 ถ้าดูหมายเลขทางหลวงลำบากก็ ดูป้ายเอาครับ เริ่มออกจากน่านหาทางไปอำเภอสันติสุขให้ได้  จากนั้นก็ไปบ่อเกลือ และก็ไปตามทางเรื่อย ๆ พอถึงบ่อเกลือ แวะชมเกลือภูเขาเสร็จ ต่อไป ดอยภูคา และไป อำเภอปัว แล้วจะขับวนเข้ามาน่านอีกทีก็ได้ครับ
 เราเริ่มจากที่พักวิ่งเลาะฝั่งซ้ายขึ้นไปตามลำน้ำน่าน ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ข้ามแม่น้ำน่าน มุ่งไปอำเภอสันติสุข ดูป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ ทางดีไม่ต้องกลัวหลงครับ
 ระหว่างทาง เจอหมู่บ้าน เราไปช่วงปีใหม่รถเยอะพอสมควร ทั้งรถท้องถิ่นและรถนักท่องเที่ยว มีพระองค์ใหญ่ข้างทางน่าสนใจทีเดียว
 หาที่จอดรถ วิ่งหามุมถ่ายภาพ ลืมอ่านชื่อวัดมาครับ ง่ะ
 ถ่ายเสร็จก็ไปต่อ วิวสวยตลอดครับ แต่ลงไปถ่ายไม่ได้ อย่างภาพนี้ก็ให้เจ้าของ blog เค้าถ่ายให้ ถ่ายผ่านหน้ารถไปเลยครับ (ถ้าเป็นมอไซ คงจอดแอบได้ง่ายๆ เลย)
 อดใจไม่ไหว มุมนี้ลอยฟ้าบนสันเขาเลยครับ
 มีรถทำมาหากินของชาวบ้านอยู่คันนึงเลยเอามาประกอบฉากซะเลย
 ทิวเขาสุดลูกหูลูกตา  ยุ้งเก็บข้าวโพดเต็มไปหมดเลย
 อีกมุมครับ ใกล้เข้ามาอีกนิด
 แล้วก็ได้เวลาไปต่อ 
 ยิ่งไป ยิ่งไป ทางยิ่งมันส์มากขึ้น โค้งหักศอก ทำความเร็วได้ไม่มากนัก ภาพนี้จอดกลางโค้งแล้วถ่ายเลยครับ (พอดีเล็งกระจกหลังแล้วไม่มีรถตามหลังมา)
 ภาพนี้แวะที่จุด ตชด(มั้ง) ลงไปยืดเส้นยืดสาย ถ่ายทิวเขาลิบ ๆ เมฆไกลๆ ที่เห็นนั่น สุดท้ายเราขึ้นและต้องทะลุไปครับ
 ไม่นานนักเราก็มาถึง บ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขา (คลิ้กเพื่อชมรีวิวได้ครับ)
 ออกจากบ่อเกลือเราเดินทางไปต่อเพื่อไปจุดชมวิวดอยภูคา
 สูงขึ้นเรื่อยๆครับ
 ในที่สุดก็ทะลุเมฆ เจอกับนักบิดประจำท้องถิ่น เลยเอาเป็นแบบซะเลย
 แวะไปเรื่อยเปื่อย ตรงไหนพอจอดได้ก็จอดทันที วิวสวยอยู่แล้วครับ
 ที่ทำการซ่อมบำรุงถนนมั้งครับ เงียบเชียว ช่วงปีใหม่คงไปพักกันหมด
 มีผักขายริมทางด้วย ด้านล่างนั้นเป็นหุบเขา
 ไปเรื่อย ๆ เห็นทางด้านล่างเหมือนงูเลื้อยเลยครับ
 วิ่งบนสันเขาอีกแล้วครับท่าน
 ถึงแล้วจุดชมวิวดอยภูคา อยู่บริเวณโค้งตัวยูนี้เลยครับ
 หาที่จอดรถ คนเยอะมากครับ คึกคักสุด ๆ  อยู่ในเมฆครับ ที่เห็นขาวๆ นี่คือเมฆบนยอดเขาที่เราเห็นไกลๆ (ตอนแรกไม่คิดว่าต้องขึ้นสูงขนาดนี้)  ความสูง 1750 เมตร จากระดับน้ำทะเล 
 ผู้ที่จะมานอนพักก็เริ่มจับจองที่กางเตนท์ (ที่กางเต๊นท์อยู่ริมถนนเลยครับ สะดวกมาก) แต่ว่าที่กางเต๊นท์น่าจะไม่พอสำหรับคืนนี้ เพราะคนทะยอยมาเรื่อยๆ ครับ
 วิวจากดอยภูคา มีคนถามว่าไปทำไม ดอกภูคายังไม่บาน จะบานก็กุมภาพันธ์  เราไปเพราะได้ยินมาว่าเส้นนี้สวยงาม  เราไม่ได้สนใจดอกภูคาอะไรนั่นเลยครับ   พอออกจากจุดนี้เราก็มุ่งเข้า อำเภอปัว ผ่านต้นภูคาริมทาง(มีต้นเดียว) แต่ไม่ได้จอดรถถ่ายภาพมาครับ เพราะคนเยอะแล้วเราก็มองว่าก็ต้นไม้ป่าต้นนึง ที่สำคัญวิวไม่ได้สวยพอที่จะจอดรถเพื่อถ่ายภาพ
 เส้นทางไป อำเภอปัว ยังสวยงามไปเรื่อยๆ จนถึงปัวเลยนะครับ
และแล้วก็มาถึงอำเภอปัว เวลาประมาณบ่ายสองโมง ผมนี่หิวเลยครับ ปัวเป็นอำเภอที่ใหญ่ทีเดียว ภูมิประเทศสวยงาม เห็นภูเขาเป็นฉากหลัง 

สรุป  ช่วงปีใหม่ 2558 ทางดีมาก โค้งเยอะ ทางชันบ้างบางช่วงรถใหญ่ไปแบบสบายๆ รถเล็กก็ไปได้ครับ (แต่ถ้าหน้าฝนทางอาจพังได้จากน้ำฝน ต้องเช็คอีกทีครับ) เราใช้เวลาขับรถชมวิว ไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบ แวะบ่อเกลือ และจุดชมวิวที่ดอยภูคา ระยะทาง 150 กม. ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆครับ คุ้มมากกับอาหารตาที่ได้เห็น บรรยากาศที่ได้สัมผัส   เป็นเส้นทางแนะนำเลยครับ จบไว้ที่ภาพดอกดาวเรืองที่ดอยภูคานะครับ

2 ความคิดเห็น: