วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เกาะพยาม ตอนที่ 2 ตะลอนรอบเกาะ กับรถเครื่องหนึ่งคัน เก็บ High Light สำคัญๆที่เกาะ Payam

ในตอนที่ 1 นั้นเราเน้นไปที่บลูสกายรีสอร์ท บรรยากาศและกิจกรรมที่รีสอร์ท   ส่วนในตอนที่ 2 เราจะเน้นที่สภาพแวดล้อมและสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ของเกาะภาพในระยะเวลา หนึ่งวันเต็ม (เริ่มจาก บ่ายวันที่หนึ่งไปเสร็จสิ้นบ่ายวันที่สอง  สำหรับสถานที่ที่ครอบครัวเราได้ไปมาบนเกาะนี้ ได้แก่ วัดเกาะพยาม อ่าวเขาควาย อ่าวใหญ่ อ่างเก็บน้ำเกาะพยาม จุดชมวิวที่ละมัยรีสอร์ท (เห็นวิวมุมสูงเกือบรอบเกาะ) พาหนะหลักของเราคือมอเตอร์ไซด์ (ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซด์มาก่อน เพราะถนนในเกาะค่อนข้างแคบ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ขี่คันละคนครับ)
มอเตอร์ไซด์ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแบบเดียว คือบิดกับเบรค ไม่มีเกียร์อะไรทั้งนั้นครับ ถ้าวางแผนดีๆ วันเดียวตั้งแต่เช้าจรดเย็นไปได้ทั่วเกาะครับ  เกาะไม่ใหญ่แต่ก็ขี่จักรยานไม่ไหวแน่ๆ ตอนนี้เน้นภาพละกันครับ ขอเริ่มตั้งแต่ลงเรือจากระนองเลยนะครับ

ไปกันเลยครับ ค่าเรือ 300 บาทต่อคนลงที่ปากน้ำระนอง
 สปีดโบ้ท เร็วมากจริงๆ
 เครื่องยนต์สองเครื่อง แต่ไม่รู้ว่ากี่ซีซี ลำนี้จุ 18 คน
 บนเส้นทางไปผ่านปากน้ำที่อุดมสมบุรณ์ไปด้วยป่าชายเลนครับ
 40 นาทีเราก็ฝ่าทะเลมาถึงเกาะพยามเห็นวัดเกาะพยามซึ่งเดี๋ยวเราต้องมาแน่ๆ
 ขึ้นเรือได้ละครับ ไปต่อไป
 เก็บภาพอ่าวแม่หม้ายบริเวณท่าเรือ ช่วงที่เราไปถึงน้ำลงไปพอควรแล้ว
 สภาพท่าเรือขึ้นลงสะดวกปลอดภัย
 ร้านให้เช่ามอเตอร์ไซด์มีเรียงรายอยุ่ทั่วไปเลยครับ 200-250 ต่อวัน น้ำมันลิตรละ 40 บาท กะว่าเดี๋ยวเช็คอินเรียบร้อยที่รรีสอร์ท เราจะมาเลือกซักคันเอาที่นั่งได้สามคน พ่อแม่ลูฏ
 และแล้วก็เสร็จภารกิจเช็คอิน ได้เวลาไปเช่ามอไซด์แล้ว  สำรวจสภาพถนนภายในเกาะก่อน พอได้น่า
 เราเลือกคันนี้ละครับ 
 ไปกันเลยครับ คันที่เห็นเป็นรถชาวบ้านที่ใช้ขนของอุปกรณ์การเกษตรครับ (เราหลบให้เค้าแซงไป)
 ที่หมายแรกคือ วัดเกาะพยามตั้งอยู่ที่อ่าวแม่หม้ายใกล้ๆ สะพานท่าเรือ
 ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนน้ำลง โขดหินเต็มไปหมด  เราต้องมาเก็บภาพตอนน้ำขึ้นอีกทีในวันพรุ่งนี้ ขอบอกเลยว่าร้อนมากวันนี้ไม่เดินไปที่โบสถ์ แดดบ่ายแรงจริงๆครับ
 นี่คือพระประธานในโบสถ์ทรงกลมที่เห็นครับ (ภาพนี้เรามาอีกวันหนึ่งตอนสายๆ แดดยังไม่แรง)
 บรรยากาศตอนน้ำขึ้นเต็มที่
 ถ่ายจากตัวโบสถ์เข้าไปหาแผ่นดิน น้ำเขียวได้ใจเต็มๆเลยครับ ใสด้วยเห็นปลาเต็มไปหมด
 ซูมมาดูใกล้ๆ มีพระอยู่หนึ่งองค์บนเนินเขา  ไหว้พระเสร็จอะไรเสร็จ เราก็เดินทางต่อไปอ่าวเขาควาย
อ่าวเขาควาย นี่ภูมิประเทศแปลกตามากครับ โขดหิน เปลือกหอยเต็มไปหมดเลย แนะนำว่าอ่าวนี้ควรมาตอนน้ำลงเพราะจะเห็นแบบในภาพ ถ้ามาตอนน้ำขึ้นก็ไม่เห็นโขดหินที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ของอ่าวนี้
 นอกจากนั้นแล้ว ยังมีก้อนหินรูๆ อีกหลายก้อนเลยครับ
 รูปร่างก็ชวนมองจริงๆ
 ชาวบ้านหาอะไรบางอย่างในทะเล
 ดูๆกันไปก่อนครับเปลือกหอยทั้งนั้นเลย ระวังบาดด้วยต้องใส่รองเท้าเดินนะครับ
 โขดหินที่นี่แปลกตาจริงๆ

จากอ่าวเขาควายเสร็จ เราก็ขี่รถต่อไปที่อ่าวใหญ่ (ไปอีกไกลพอควร)
การเข้าถึงอ่าวใหญ่นี่ต้องขี่รถไปให้สุดทางเลยครับ แล้วเดินทะลุรีสอร์ท เพราะว่ารีสอร์ทจะก้ันทางลงทะเลเอาไว้ อย่างที่เราไปนี่ก็ไปสุดที่อ่าวใหญ่รีสอร์ท จอดรถแล้วเดินไปชายหาด สั่งน้ำมากินแก้ร้อน บรรยากาศของอ่าวใหญ่จะเป็นหาดทรายยาวมากและกว้างมากเวลาน้ำลง(ขอบอก) สงบเงียบมีรีสอร์ทแบบธรรมดาฝรั่งชอบมาอยู่เป็นเดือนๆ  เป็นอ่าวที่เห็นพระอาทิตย์ตก
ได้น้ำดับกระหาย ก็สนุกกันต่อ แม่ลูกเพลินกันไปตามเรื่องครับ
สภาพหาดทรายและลอนทรายของอ่าวใหญ่ 
วันที่ไปพายุเพิ่งหายเลยมีคลื่นเล็กน้อยกำลังงาม
ฝรั่งพวกนี้เดินตากแดดไม่ใส่เสื้อ เห็นแล้วกลัวผิวไหม้จัง หวังว่าคงทากันแดดนะ
ครึ่งวันแรกเรามาจบที่อ่าวใหญ่ จากนั้นก็ขี่รถกลับที่พักไปเล่นน้ำ กินบรรยากาศชายทะเลที่อ่าวแม่หม้าย
ช่วงนี้อ่าวนี้ลมแรงคลื่นแรงเล่นน้ำต้องระวังครับ
นั่งเล่นริมชายหาดดีกว่า
ผ่านไปหนึ่งคืนบนเกาะพยามที่ blue sky resort ตื่นเช้ามารับบรรยากาศดวงอาทิตย์ขึ้น
โผล่หลังแผ่นดินไทยโน่นครับ แสงแรงมาเลยทีเดียว โปรแกรมวันนี้ที่ตั้งใจไว้คือเล่นน้ำพายเรือที่รีสอร์ท  คลิ้กเพื่อชมรีวิวตอนที่แล้วได้เลยครับ
 หลังจากเสร็จกิจกรรมที่รีสอร์ทก็จะไปวัดเกาพยามอีกรอบ(ซึ่งใส่ภาพไว้แล้วในตอนต้น) จากน้ันก็ไปเที่ยวอ่าวกวางปีป (ไปไม่ถึงต้องเดิน แต่เนื่องจากร้อนและขี้เกียจเลยไปต่อ ที่อ่างเก็บน้ำประจำเกาะ
อ่างเก็บน้ำเกาะพยาม อ่างนี้เลี้ยงทั้งเกาะเลยครับเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ไม่มีคนเลย เหงามาก เป็นแหล่งนกเหยี่ยวแดง มีเยอะมากเลย เราเห็นไม่ต่ำกว่า 15 ตัว (แต่อยู่บนฟ้าเก็บภาพมาไม่หมด)
บริเวณทิวไม้อาจจะเป็นรังของมัน ในภาพนี้มีนกกำลังกินน้ำ(หาปลา) อยู่สามสี่ตัว (ดึงมาสุดเลนส์เลยครับ)
ตัวนี้บินมาที่เรานั่งพักอยู่ ท่าทางจะดุเอาเรื่อง บินสำรวจอยู่หลายรอบ
บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมี บ้านพักด้วย แนวฝรั่งชอบสันโดษ เปลี่ยวเหงาไรงี้
นั่นคือฝูงเหยี่ยวที่อยู่เหนือยอดไม้ ร้อนมากครับที่นี่ อุปกรณ์กันร้อนต้องพร้อมนะครับไม่งั้นไหม้
ออกจากอ่างเก็บน้ำไปต่อที่จุดชมวิวประจำเกาะกัน  ระหว่างทางผ่านสวนมะม่วงหิมพานต์ ถ่ายไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย จะเห็นว่าต้นใหญ่มากๆเลย
ขี่รถมาประมาณนึง ขึ้นที่สูงเรื่อยๆ จนมาเจอกับละมัยรีสอร์ท วิวดี สูงสุดของเกาะพยามละมั้งครับ
ร้านน่านั่ง สั่งขนมน้ำมากินเล่นพลางชมวิวมุมสูง แดดข้างนอกแรงแต่อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่พอไหวๆ
รีสอร์ทนี้มองเห็นได้เกือบรอบเกาะเลย(เห็นไกลๆ) บ้านพักอยู่บนที่สูงทุกหลังหันน้าออกเพื่อชมวิวเต็มๆ เราไม่ได้พักที่นี่ (เพราะไม่มีแอร์) ในปีนี้ 2558 ที่พักที่มีแอร์มีน้อยมากครับ
ที่เห็นไกลๆ นั่นคืออ่าวเขาความ มองจากมุมสูง (จริงๆ แล้วไกลลิบๆเลยครับ นี่ก็ใช้กล้องซูมเข้ามา) พักที่นี่เก็บภาพจนหายเหนื่อยกินน้ำขนมจนหายหิว ก็ได้เวลากลับที่พักไปเล่นน้ำทะเลที่ที่พักอีกรอบ
บรรยากาศยามเย็นบริเวณที่พัก วันที่สองที่เรามาทะเลนิ่งมากเลยครับ
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ยังไม่ได้ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นเลย ต้องกลับแล้ว ให้ดีน่าจะอยู่ซักสามคืนครับ เก็บหมดเกาะได้เลย
จบไว้ที่ภาพนี้นะครับ(อ่าวเขาควาย)  สรุปว่า เกาะพยาม ขอเพียงแค่มอเตอร์ไซด์คันเดียวเที่ยวได้รอบเกาะครับ ไปตามทางมีป้ายบอกเป็นระยะๆ ใช้น้ำมันไม่เกินสามลิตร(รวมหลงทางด้วยแล้ว) สำหรับตอนที่หนึ่ง ใครยังไม่ได้ชมคลิ้กที่ลิงค์ได้เลยครับ จัดว่าเป็นไฮไลท์ของเกาะนี้ในปี พ.ศ.นี้ไปแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น