น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น(Huai Mae Khamin Waterfall เป็นน้ำตกที่เราอยากไปมาก ๆ ตั้งแต่สมัยรถยังเข้าไม่ค่อยได้ ปัจจุบันเราสามาถเดินทางจากกรุงเทพไปถึงน้ำตกโดยใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น เลยน้ำตกเอราวัณไปแค่ 44 กม. เท่านั้น (ไม่อยากเชื่อเลย) เราเริ่มวางแผนการเดินทาง ว่าจะใช้เส้นทาง ไทรน้อย บางเลน กำแพงแสน พนมทวน กาญจนบุรี เอราวัณ ห้วยแม่ขมิ้น โดยรวมระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร
จากภาพด้านบนเป็นแผนที่จากท่ารถกาญจนบุรีไปถึงน้ำตก ระยะทางประมาณ 110 กม. เท่านั้น google map บอกว่าใช้เวลา 3 ชั่วโมง แต่ขับจริง ๆแค่ สองชั่วโมงเท่านั้นครับ สรุปว่าเราออกจากบ้าน 5.30 am ไปถึงอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำตกเวลาประมาณเก้าโมงครึ่งกว่า ๆ เท่านั้น (ยังไม่ถึง 10.00 am) คนยังน้อยมาก ๆ ครับ
ระหว่างทาง เลยทางเข้าน้ำตกเอราวัณไปประมาณ 5-6 กิโลเมตรเราจะเจอกับวิวเขื่อนศรีนครินทร์ด้านทิศตะวันตก บริเวณนี้มีที่ว่างพอที่จะมองเห็นวิวเขื่อนได้สวยงามมาก ๆ หาที่จอดรถได้บริเวณทางเข้าวัดป่าญานรังษีครับ (ไม่ควรจอดริมถนนเพราะถนนแคบอาจเกิดอุบัติเหตุได้) หรืออาจขับเข้าไปริมอ่างเก็บน้ำก็ได้ครับ อยู่ตรงข้ามกับวัด เป็นลูกรังรถพอเข้าได้
จุดที่สามารถจอดรถแวะชมได้ก็บริเวณนี้ครับ (ภาพจาก google street view) เดินถ่ายภาพให้สะใจไปเลยครับสำหรับคนชอบถ่ายภาพ)
จอดรถเสร็จข้ามถนน เดินเข้าไปด้านในให้ใกล้ริมทะเลสาบมากที่สุด ซูมเข้ามาใกล้ ๆ ได้ภาพที่เห็นครับ
ถ่ายกันไปเรื่อย ๆครับ เห็นรีสอร์ทต่างๆ เรียงรายตามขอบทะเลสาบเต็มไปหมดครับ ต้องซูมครับ
ดึงภาพเข้ามาดูกันชัด ๆ รีสอร์ทอะไรเอ่ย (เราก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ)
บริเวณนี้คือบริเวณที่เราเดินเข้าไปเก็บภาพครับ (ภาพนี้มีภาพคนตั้งชื่อ blog ด้วยครับ)
ถ่ายภาพจนไม่รู้ถ่ายอะไรแล้ว(ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) เราก็ออกเดินทางต่อครับ เหลืออีกประมาณ 38 Km
ในที่สุดก็มาถึงแล้วครับ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นส่วนหนึ่งอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เสียค่าเข่้าทั้งรถทั้งคนอีกสามคน รวม ๆ กันประมาณร้อยกว่าบาท(มั้ง)
ยืนยันด้วยภาพอีกครั้งนะครับว่ามาถึงแล้ว เอาล่ะ จอดรถที่ลานจอดรถแล้วไปกันเลย เราตั้งใจว่าจะไปชั้น 4 -3-2-1 เท่านั้นพอครับ (ความจริงแล้วที่นี่มีน้ำตกเจ็ดชั้นด้วยกัน แต่เราขอไปแค่สี่เอาใกล้ ๆ) จากลานจอดรถเดินทางราบประมาณ 100 เมตรเท่านั้นครับ จะได้เห็นน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยงามที่สุดแล้ว(เค้าว่ากันไว้)
เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วครับ น้ำตกชั้นที่สี่ "ฉัตรแก้ว"
แนวตั้งกันบ้าง น้ำเยอะครับ มีน้ำทั้งปี นี่ขนาดแม่ค้าแถวนั้นบอกว่ายังไม่มีฝนใหญ่เลยนะครับ
อีกมุมแล้วกันครับเห็นแอ่งน้ำกันชัด ๆ จากนั้นเราก็จะเดินลงไปชั้นสามสองหนึงตามลำดับครับ เดินลงไปเพียงประมาณสองร้อยเมตรก็ถึงชั้นที่สาม
น้ำตกชั้นที่สาม "วังหน้าผา"
ฝนโปรยปรายเป็นระยะ ๆ ตลอดการชมน้ำตกของเราครับ ทางก็ลื่น เดิมมีทางเดินเป็นสะพาน แต่ช่วงที่เราไปเค้ากำลังซ่อมทำให้เดินลำบากมาก ๆ ต้องลงไปเดินปีนป่ายข้างทางแทนเพราะทางหลักเค้าซ่อมมีแต่เสาเหล็กที่คม ๆ ต้องระวังบาดด้วยครับ จากนั้นเราก็เดินทางลงไปต่อชั้นที่สองครับ
ระหว่างทางเดินมีลำธารใสไหลรินอยู่ด้านข้างตลอด สวยงามมาก ๆครับ
เดินไปเรื่อย ๆ
ระหว่างชั้นยังสวยขนาดนี้เลย ตรงนี้กึ่งกลางระหว่างสองกับสามครับ
และแล้วก็มาถึงชั้นสอง "ม่านขมิ้น"
จริง ๆ ต้องเดินลงไปอีกนิดนะครับถึงจะเห็นภาพแนวลึกกว่านี้
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะลงไปให้ถึงชั้นหนึ่ง แต่ฝนเริ่มตกและทางก็ชันและลื่นกว่าเดิม เราเลยตัดสินใจกลับ (ถ้าทางดีๆ ทำเสร็จแล้ว น่าจะเดินได้สบายๆ ครับ เหมือนเดินห้างเลย ) พอเลยชั้นสองมาได้นิดเดียวเราก็กลับครับ แล้วไปหาอะไรกิน เหนื่อยเหมือนกันเหงื่อท่วมเลยทั้งสามคนที่ไป
ขึ้นมาถึงชั้นสี่ เดินหาที่นั่ง เอาแถวนี้แหละครับใกล้ร้านอาหารด้วย พักเหนื่อย พักสายตา
บ้านพักในอุทยาน ระเบียงเค้าน่านั่งมากเลย มองทะเลสาบได้ทั้งวันแน่ ๆ จากน้ันก็เดินทางกลับ เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ สองชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นครับ ถ้าทางเดินซ่อมเสร็จแล้วคาดว่าเวลา สี่ชั่วโมงรวมเล่นน้ำด้วยน่าจะสบายๆ เหลือ ๆ เอาแค่เดินชั้น 4 ถึง 1 นะครับ (เพราะระยะทางไปกลับแค่ 1 km แต่ถ้าจากชั้น 4 ไปถึง 7 ไปกลับประมาณ 3 km)
สรุป ถ้าออกจาก กทม 5.30 ถึงน้ำตก 9.30 อยู่ที่น้ำตก 5 ชั่วโมง ออกจากน้ำตก 14.30 ถึง กทม. ไม่น่าจะเกินสองทุ่มครับ (แต่ Trip นี้เราไม่ได้กลับ กรุงเทพ เรายังไปต่อครับ ไปพักผ่อนต่อที่ Float house resort ซึ่งฉีกมาทางไทรโยค) และเราก็ขอจบ Trip นี้ไว้ที่ภาพนี้นะครับ ฉัตรแก้ว ชั้น 4
ขอบคุณเพื่อนใน G+
คุณไก่ Kai Kitsada ให้ข้อมูลที่จอดรถจุดชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์ทำให้เราประหยัดเวลาไปได้เยอะ
คุณไก่ โบเก้ วิ้งวิ้ง ให้คำแนะนำในการเลือกชมน้ำตกว่าเวลาน้อยให้ไปชั้น 4-1
ขอบคนทุกคนที่เข้ามาชมครับ กดบวกหรือแสดงความคิดเห็น ขอให้รวย ๆ และมีความสขมากๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น