วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลงเรือหางยาวไปนอน ริมแม่น้ำแควน้อย ที่ Float house river kwai Resort kanchanaburi

หลังจากที่เราได้ไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเรียบร้อยก็ได้เวลากลับ แต่เรายังไม่มุ่งหน้ากลับกรุงเทพ เรามุ่งหน้าไปอีกฝั่งหนึ่งของกาญจนบุรี เพื่อไปพักริมแม่น้ำแควน้อย The Float house river kwai Resort kanchanaburi ตั้งอยู่แถว ๆ น้ำตกไทรโยค ใช้ทางหลวง 3457 ตัดเข้าเส้นไทรโยค 323   ทางดีสะดวกและใกล้ ระยะทางแค่ 111 Km เท่านั้นครับ  (จองเสร็จเรียบร้อยใกล้วันไปถึงได้รู้ว่าที่นี่ไปได้ทางเรือเท่านั้น)


Google map บอกว่าใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ขับจริง ๆ ไม่ถึงหรอกครับ แค่สองชั่วโมงก็เหลือ ๆ แล้วครับ แต่ที่พักของเราต้องไปต่อเรืออีกสิบนาที (ไปทางรถยังไปได้ไม่สะดวกครับ)  เป้าหมายแรกคือต้องขับรถไปที่ ท่าเรือรีโซเทลเพื่อไปลงเรือที่นั่น (เป็นเครือเดียวกันใช้ท่าเรือเดียวกัน)  ระหว่างเส้นทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นไปท่าเรือรีโซเทล วิวสองข้างทางสวยมากครับ ขับเพลิน ๆ ไม่นานก็ถึง หลับบ้าง ชมวิวบ้าง อะไรบ้าง(คนนั่ง)
เรามาถึงท่าเรือ เลยน้ำตกไทรโยคน้อยไปประมาณนึงครับ (จำไม่ได้แล้ว แหะๆ) ท่าเรือมีเรือจอดอยู่หลายลำลงไปบอกได้เลยว่าจะไปที่ Float house  เค้าก็ให้เราลงไปได้เลยครับตอนแรกนึกว่าต้องรอคนอื่นด้วย แต่ปรากฎว่าออกเลยครับ  
นั่้งเพลิน ๆ ลมปะทะหน้าไม่ทันชาก็จะเริ่มเห็นที่พักแล้วครับ
ภาพนี้เป็นที่พักถ่ายขณะอยู่กลางแม่น้ำ  เรือจะไปเทียบท่าที่ส่วนกลางของแพ พอขึ้นจากเรือก็เป็นล้อบบี้เลย  ที่นี่เป็นธรรมชาติมากๆ ครับ ทันทีที่ขึ้นจากเรือสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติทันที
ภาพนี้เป็นภาพบริเวณล้อบบี้ (อันนี้มาถ่ายอีกทีตอนเย็นแล้ว)
ภาพนี้ถ่ายจากท่าเรือของรีสอร์ทย้อนไปทางที่เรือเราแล่นมา มี Welcome Drink ให้ด้วยครับ ได้ถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม ซึ่งมีหลัก ๆ คือ ล่องแพเปียก  นั่งเรือเที่ยวไปไทรโยคใหญ่   ล่องชูชีพ(สวมชูชีพแล้วลงไปในแม่น้ำปล่อยให้ไหลไปเรื่อย ๆ ประมาณหนึ่ง กม. ไปขึ้นที่ รีโซเทล แล้วมีเรือไปรับกลับ อันนี้ฟรีครับ)   นอกจากนี้ก็มีเดินขึ้นไปชมสวนผลไม้ หมู่บ้านมอญ ถ้ำละว้า แล้วแต่ชอบ ทุกกิจกรรมที่ใช้เรือหรือแพต้องจองเวลา แม้กระทั่งเวลากลับก็ต้องบอกเวลาเพื่อความสะดวกในการจัดหาเรือรับนักท่องเที่ยว  พอสอบถามข้อมูลเสร็จก็ไปห้องเลยดีกว่าครับ
ไขประตูเข้าไปก็เจอประมาณนีั ซ้ายคือเตียงและระเบียงนั่งเล่น ขวามือคือตู้เก็บเสื้อผ้า เดินทะลุไปห้องน้ำได้ด้วย พื้นมีรูยุงและแมลงเข้ามาได้ครับ ใครคิดจะมาที่นี่แนะนำยากันยุงแบบทามาด้วยก็ดี
 มองไปทางปลายเตียงมีเก้าอี้นั่งเล่นสองตัว  มีประตูเดินออกไปเป็นระเบียงหันหน้าออกแม่น้ำ
 มองทางหัวเตียงบ้าง
ปลายเตียงทางซ้าย  ด้านซ้ายสุดมีเก้าอี้นั่งเล่นพร้อมโต๊ะ ขนาดกำลังดีไว้นั่งเล่นด้วยครับ
 ห้องอาบน้ำ มีฝักบัวสายฝนด้วย(ชอบ)
สภาพเพดานและการตกแต่ง มาพัดลมเพดานและเชือกเยอะมากครับ(คนกลุ้มใจไม่ควรมาพัก)
 เปิดประตูห้องด้านปลายเตียงออกไป เจอกับระเบียงนั่งเล่น มีชิงช้าด้วย  เล่นน้ำไม่ได้นะครับอันตราย เดี๋ยวถูกพัดไปใต้แพ น้ำแรงมากๆๆ
ภาพนี้ถ่ายจากชิงช้าจะเห็นแพเป็นห้อง ๆ ยึดติดกันครับ
 ทางเดินภายในแพ ห้องจะมีความเป็นส่วนตัวมาก คนเดินผ่านไปมามองเข้ามาไม่ได้ครับ ถึงจะเป็นแพแต่ทางเดินก็กว้างใช้ได้ครับ รถขนของเข็นได้สบาย ๆ
 บันได้ที่เห็นนี้ เอาไว้ขึ้นบก(ปีนขึ้นไปเหนื่อยเหมือนกัน)  ด้านบนไปถ้ำละว้าได้ ไปหมู่บ้านมอญ สวนผลไม้ เบื่อ ๆ ไม่มีไรทำก็ขึ้นไปเที่ยวได้ครับ เดินอย่างเดียว กิโลเมตรเดียวครับ
 เป็นโถงทางเดินบริเวณล้อบบี้
บรรยากาศห้องอาหาร ที่เราฝากท้องไว้ทุกมือครับเพราะไปไหนไม่ได้ อาหารเย็นควรสั่งล่วงหน้าไม่งั้นรอนานแน่ๆ 
ขอโต๊ะนี้แล้วกันครับ วิวดี
 อิ่มเสร็จเรียบร้อยก็กลับมานั่งชิงช้าอีก
อีกภาพเริ่มมืด แมลงค่อนข้างเยอะช่วงมืดครับ 
จบที่ภาพนี้นะครับ ฝนตก ก็ยังสวยอีกแบบ   แป้บเดียวเองผ่านไปแล้วสองคืน 

สรุป  
1. ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนมาก เงียบ สันโดษ ส่วนตัว   
   ถ้าครอบครัวมีเด็กซนไม่แนะนำเลยครับตกน้ำไปลำบากแน่ ๆ เพราะน้ำแรงมาก ๆ (ช่วงที่เราไปแรงมาก ไม่รู้ว่าแรงอย่างนี้ทั้งปีหรือเปล่า)   
2. ถ้าเป็นช่วงเทศกาล ห้องอาหารต้องสั่งล่วงหน้า เพราะให้บริการได้จำกัด
3. ไม่เหมาะสำหรับคนที่เมารถเมาเรือง่าย เพราะแพโคลงเคลงตลอดวันตามเรือวิ่ง ตอนกลางคืนนิ่งมากครับ
4. ต้องเตรียมโลชั่นกันแมลงไว้ทาด้วยครับ เพราะในป่าแมลงอะไรก็ไม่รู้กันไว้ก่อนอย่าให้มันกัดดีกว่า
5. อาหารเช้าเป็น ABF  อาหารน้อยครับ แต่ถือว่าใช้ได้เมื่อเทียบกับที่ตั้งของที่พัก ส่วนราคาอาหารพอใช้ได้ไม่แพงเวอร์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น