น้ำตกห้วยยาง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก 9 ชั้นอยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ เหมาะสำหรับการเข้าไปพักผ่อนเพราะมีทิวทัศน์สวยงามและมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ ตามที่ได้ไปสัมผัสมา นับได้ว่าเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่ในแต่ละชั้น แต่ตามทางเดินมีความสดชื่นให้เห็นตลอด(อาจเป็นเพราะว่าหน้าฝน) มีมอสและไลเคน อยู่ตามโขดหินและต้นไม้ ลักษณะน้ำตก แต่ละชั้นเป็นชั้นเล็ก ๆ ไม่ได้อลังการเหมือนน้ำตกขนาดใหญ่เช่น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นหรือน้ำตกเอราวัณ (ประเมินดูแล้วคิดว่าถ้าเป็นหน้าแล้งน้ำน่าจะน้อยมากๆ ) ลักษณะของน้ำตก เหมือนเป็นลำธารน้ำไหลมาตามซอกเขาจากที่สูงชัน ตรงไหนเป็นแอ่งก็กลายเป็นชั้นน้ำตกได้ เราเดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไปได้แค่ชั้นที่ 3 (มั้ง) ไม่ได้ไปต่อเพราะเห็นฝนเริ่มตั้งเค้าเกรงว่าจะเปียกอีกทั้งวันก่อนหน้า ฝนก็เพิ่งถล่มไปมีน้ำหลากด้วย(ร้านขายข้าวในอุทยานเล่าให้ฟัง)
จากแผนที่ จะเห็นว่าเป็นวันสบายๆ ไม่ต้องขับรถไกลมาก
ทางเข้าน้ำตกราดยางอย่างดี สองข้างทางเป็นทุ่งนาสลับต้นมะพร้าวแปลกตาดีครับ
และแล้วก็มาถึงเขตอุทยาน สามคนรวมรถหนึ่งคัน จ่ายไปร้อยกว่าๆ (มั้งครับ)
ตรงนี้น่าจะเป็นบ้านพักเจ้าหน้าที่ สวยงามร่มรื่นสดชื่นมากๆ
ทางเดินข้ามลำธารเล็ก ๆ เพื่อเข้าสู่ตัวน้ำตก
ตามทางเดินคงชุ่มชื้น มอสและไลเคนมีให้เห็นทั่วไป
ไม่นานเลยครับ เราก็ถึงน้ำตกชั้นที่หนึ่ง สังเกตุดีๆ จะเห็นวาวน้ำด้วยนะครับ อยู่มุมซ้ายบนของภาพ
จากชั้นที่หนึ่งเดินต่อไปเรื่อย ๆ เราเองก็เริ่มงงเหมือนกันครับ ว่าตรงนี้เป็นชั้นสองหรือเปล่าเดินเรื่อยเปื่อยไม่ค่อยได้อ่านป้าย
ที่ชอบก็คือลำธารของสายน้ำ น้ำเยอะครับ
มองขึ้นไปทางต้นน้ำ จะเห็นน้ำเป็นสายไหลลงมาจากภูเขา (ชอบมากๆ ดูน่าสนใจดีครับ)
ตามสายน้ำขึ้นเขามาเรื่อย ๆ ณ จุดนี้รู้สึกว่าจะเป็นชั้นสาม ไปต่อได้ครับแต่ผมหยุดไว้แค่ชั้นนี้ เพราะกลัวฝนตกเดี๋ยวจะวิ่งไม่ทัน(ที่สำคัญสมาชิกหยุดรออยู่ที่ด้านล่างๆ ครับ)
เดินกลับลงมาเจอสมาชิกที่ไปด้วยอีกสองคนนั่งชมน้ำตกเพลินกันไปเลย
ตลอดทางที่เดินตรงไหนเป็นที่โล่ง จะเห็นดอกไม้ป่าสีม่วงบานเต็มไปหมดเลยเห็นแล้วรู้สึกสดชื่น จบน้ำตกห้วยยางไว้ที่ภาพนี้นะครับ ต่อไปก็เดินทางต่อไปยังวัดอ่างสุวรรณเลย
===========================================================
วัดอ่างสุวรรณ มีโบสถ์ไม้ตาลที่สวยงามโดดเด่นมาก ตัวอุโบสถใช้ไม้ตาลทั้งหลังกว้าง 8 เมตร ยาว 29 เมตร สูง 16 เมตร มีเพียงคานล่าง และไม้เครื่องบนเท่านั้น ที่ใช้ไม้ตะเคียน เพราะต้องรับน้ำหนักมากๆ รอบๆ โบสถ์รวมถึงด้านหน้า ใช้ไม้ตาลแกะสล้กลวดลาย ตกแต่งสวยงาม พื้นไม้ในอุโบสถก็เป็นไม้ตาล ที่ให้ลายเส้นสวยงามในตัว อุโบสถไม้ตาลหลังนี้ ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 ข่าวว่าแรกเริ่มก็ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย แต่ท่านพระครูก็เดินหน้าทำไปด้วยตัวท่านเอง ใช้ไม้ตาลไปกว่า 10,000 ต้น จนวันนี้ตัวอุโบสถเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งบริเวณโดยรอบ ก่อนที่วัดจะมีงานใหญ่ ช่วง 10-20 เมษายน 2556 เป็นงานปิดทองฝังลูกนิมิตนั่นเอง แต่วันนี้ อุโบสถไม้ตาลก็เปิดให้พุทธศาสนิกชน ได้เข้าไปสวด ไปไหว้พระกันแล้ว ซึ่งด้านในมีพระพุทธรูปหลวงปู่ไทร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา ซึ่งแกะสลักจากไม้ไทร มีอายุกว่า 200 ปีมาแล้ว แต่ที่มาที่ไปยังไม่ใครทราบแน่ชัด แต่พระพุทธรูปหลวงปู่ไทรก็เป็นที่เคารพบูชา กราบไหว้ของชาวบ้านหนองหอยและละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ส่วนพระประธานเป็น พระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 2 เมตร มีองค์เทพหลังพระประธาน สวมสร้อยสังวาลใช้ประดับด้วยพลอยขาว สวยงาม (ข้อมูลจาก คอลัมน์ถิ่นไทยงามตอนโบสถ์ไม้ตาล จาก คมชัดลึก ออนไลน์)
ตัวโบสถ์ทำด้วยไม้ตาลจริงๆ ลายไม้ตาลสวยมากๆ
ลองเข้ามาชมด้านในโบสถ์ พระประธานก็งดงาม พื้นไม้ตาลเป็นเงาสวยงามมาก ๆ (ไม้ตาลมีลายเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนไม้ชนิดอื่น ต้องมาดูจะรู้ว่าต่างจากไม้อื่นอย่างไร)
ไม้ตาล ไม้ตาล และไม้ตาล
ลวดลาย แกะสลัก งดงามทีเดียว
หลังจากนั้นชมความพิศดารของไม้ตาลแล้วก็ไม่ลืมที่จะไหว้พระทำบุญครับ
ส่วนนี้เป็นด้านหน้าของโบสถ์ครับ จบกันที่ภาพนี้นะครับ
ขับรถผ่ายหลายต่อหลายครั้ง ยั่งไม่ได้แวะชม ... ขอบคุณที่เก็บภาพสวยๆ และเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง
ตอบลบ