
ก่อนอื่นเช่นเคยครับ หาเส้นทางจาก Google Map ขอเส้นทาง
ทัศนียภาพระหว่างทาง (ตรงนี้พอจอดได้เราก็จอด เพราะเป็นทางตรงยาว รถมารถไปเห็นกันชัดเจน)
ไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็ถึงที่หมายครับ ภูลังการีสอร์ท
ถ่ายจากถนนหน้ารีสอร์ทครับ
รีสอร์ทตั้งอยู่บนเขาที่เห็นเป็นที่ราบแอ่งเล็ก ๆ บนภูเขาสูง เป็นจุดที่เราคาดว่าจะเห็นนทะเลหมอกในวันรุ่งขึ้น
ที่นี่เค้ามีจุดสำหรับช่างภาพ ด้วยครับ คิดว่าเป็นจุดที่วิวดีที่สุด
นี่คือสภาพรีสอร์ท มีแค่ที่นอน ห้องน้ำ ไฟเล็กๆ หนึ่งดวง น้ำอุ่นที่ไม่อุ่น กับวิวสวยๆ เท่านั้นครับ จริงๆ แล้วถ้าไม่กลัวเรื่องห้องน้ำพักเต๊นท์จะได้บรรยากาศมากๆครับ บ้านสีเขียวหลังเล็กเป็นที่เราจะซุกหัวนอนคืนนี้เพื่อตื่นมาชมทะเลหมอกพรุ่งนี้
และแล้วก็ผ่านไปหนึ่งคืนตื่นมาหกโมงเช้าอย่างที่เห็นครับ วิวแบบนี้ต้องเดินออกมาจากตัวบ้านที่เราพักนิดหน่อย มาตั้งกล้องถ่ายแถวบริเวณที่กินข้าว
นั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นพ้นหลังเขา ระหว่างนี้ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ดีบ้าง เสียบ้าง ตามเรื่อง
รอ พระอาทิตย์ สภาพแสงเปลี่ยนตลอด หมอกก็เปลี่ยนสภาพเรื่อยๆครับ
บริเวณนี้โดดเด่นด้วยเขาโดดลูกเล็ก ๆ ลูกนี้จริงๆ ซูมมาดูใกล้ๆ ซะเลย
แสงมากขึ้นแล้ว
ดวงอาทิตย์กำลังจะพ้นเขาล่ะครับ แสงเริ่มมากขึ้น
โผล่มา่แล้วครับ พร้อมแสงแรงเจิดจ้าทีเดียว ที่คิดว่าจะถ่ายดวงกลมโตๆ เป็นอันว่าหมดหวังเลยครับ
แรงขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ เช่นกัน
เผลอแป้บเดียว ขึ้นไปสูงลิบแล้ว หมอกก็เริ่มหมด (ประมาณ เจ็ดโมงครึ่ง)
เปลี่ยนมุมบ้างลองหันซ้ายขวาดูรอบๆบ้างครับ
รอบๆ เป็นเขาสูงทั้งหมด ที่พักอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันไป
พอแสงแรงก็เก็บกล้องหาข้าวกินล่ะครับ ท้องร้องพอดีเลย
มีดอกบัวตองด้วยครับ เค้าปลูกไว้ให้ชมกัน(แต่มันโรยเกือบหมดแล้ว)
บ้านหลังนี้น่าอยุ่มั้ยครับ แต่มันไม่ได้อยู่บนพื้นนะครับ มันอยุ่บนอากาศ มีเสาสูงมากปักลงไปที่พื้นด้านล่าง (ไม่เห็นเสาในภาพ)
จบกันที่ภาพนี้นะครับ
หมายเหตุ ทะเลหมอกไม่ได้เห็นทุกวัน แล้วแต่สภาพอากาศ แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวจะมีโอกาสได้เห็นบ่อย วันก่อนหน้าที่เราจะไป ก็ไม่มีหมอกครับ Trip นี้เราไปช่วงปีใหม่ 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น